ข้อดีของชุดเซฟตี้แบบ Full Body Harness
ชุดเซฟตี้หรือที่หลายคนอาจเรียกว่าเข็มขัดนิรภัยกันตกหรือเข็มขัดเซฟตี้นั้น ถือเป็นอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยชิ้นสำคัญอีกชิ้นสำหรับงานบนที่สูงทุกประเภท สำหรับชุดเซฟตี้ที่เรามักจะเห็นกันทั่วไปในปัจจุบันนั้นมีสองแบบ คือ แบบครึ่งตัว และชุดเซฟตี้แบบเต็มตัว หรือ Full Body Harness นั่นเอง
ซึ่งในวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับชุดเซฟตี้แบบเต็มตัวพร้อมข้อดีของมันกันค่ะ
ทำความรู้จักกับชุดเซฟตี้แบบเต็มตัว (Full Body Harness)
Full Body Harness คือชุดเซฟตี้ที่ช่วยป้องกันการตกจากที่สูงแบบเซฟที่สุด เป็นชุดกันตกแบบสวมทั้งตัว มีจุดคล้องเชือก คล้องห่วงเซฟตี้ที่ช่วยดึงรั้งหรือพยุงหลายจุด หากเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันก็สามารถรองรับน้ำหนักและช่วยพยุงผู้ใช้ได้นานพอที่จะรอรับการช่วยเหลือในขั้นตอนต่อไปได้ ทำให้ Full Body Harness เหมาะในการทำงานบนที่สูงทุกระดับและทุกประเภทงาน แต่ก็อาจต้องใช้เวลาในการสวมใส่นานกว่า ไม่คล่องตัว และรู้สึกเกะกะมากกว่าเมื่อต้องทำงานที่ใช้การเคลื่อนไหวมากๆ แต่ในการปฏิบัติงานจริงจังที่ระดับความสูงมีความเสี่ยง การใช้ชุดเซฟตี้แบบ Full Body Harness นั้นเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่คนทำงานบนที่สูงควรเลือกพิจารณาครับ เพราะมีจุดรับน้ำหนักหลายจุดและช่วยป้องกันการกระแทกได้ดีกว่านั่นเอง
ข้อดีของชุดเซฟตี้แบบ Full Body Harness
- ชุดเซฟตี้แบบเต็มตัวเหมาะกับงานบนที่สูงทุกประเภท
ด้วยความที่สามารถดึงรั้งและติดตั้งห่วงนิรภัยได้หลายจุด ชุดเซฟตี้แบบเต็มตัวจึงเหมาะกับงานบนที่สูงทุกประเภททั้งการซ่อมหรือติดตั้งสายไฟฟ้า งานเช็ดกระจกตึกสูง หรืองานก่อสร้าง - ตัวชุดมีจุดรับน้ำหนักหลายจุด
ชุดเซฟตี้แบบเต็มตัวนั้นมีจุดติดตั้งห่วงนิรภัยหลายจุด อาจจะมากถึง 4-6 จุดในชุดเดียว ต่างจากชุดนิรภัยแบบครึ่งตัว ทำให้มีความปลอดภัยและช่วยเพิ่มความมั่นใจได้มากกว่า - ช่วยป้องกันอุบัติเหตุบนที่สูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ยิ่งทำงานในระดับที่สูงมากๆ การเลือกชุดก็ยิ่งต้องเลือกที่ความแน่นหนา ทนทานและสามารถรองรับน้ำหนักได้เยอะ ซึ่งชุดเซฟตี้เต็มตัวคือคำตอบค่ะ - เหมาะกับงานที่มีความจริงจังและความสูงทุกระดับ
ด้วยความที่มีจุดรับน้ำหนักเยอะและสามารถรองรับสรีระได้ทุกส่วน ทำให้ชุดเซฟตี้แบบเต็มตัวสามารถทำงานบนที่สูงได้ทุกระดับ
ชุดเซฟตี้แบบเต็มตัว (Full Body Harness) นั้นก็มีข้อดีที่หลากหลาย เหมาะกับการใช้งานรวมถึงความชื่นชอบของผู้ใช้แตกต่างกันออกไป แต่นอกเหนือไปจากการพิจารณาข้อดีต่างๆ แล้ว การเลือกชุดเซฟตี้ก็ควรให้ความสำคัญกับความเหมาะสมกับประเภทงานที่เราทำ สถานที่ทำงานรวมถึงระดับความสูงหน้างานที่เราต้องเจอ อีกทั้งอย่าลืมมองหาตรามอก. หรือใบรับรองมาตรฐานสากลต่างๆ ด้วยนะคะ จึงจะเป็นการเลือกใช้ชุดเซฟตี้ที่ดีและช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานได้มากที่สุด อีกทั้งยังช่วยลดความเสี่ยงในการเลือกใช้ของที่ไม่มีคุณภาพจนอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุจากการเลือกใช้สินค้าที่ไม่มีมาตรฐานได้อีกด้วยค่ะ