ถุงมือกันไฟฟ้า อุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้าอย่างแรกที่ควรนึกถึง
กระแสไฟฟ้าถือเป็นอันตรายที่เสี่ยงถึงชีวิต แต่บางคนก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องทำงานร่วมกับกระแสไฟฟ้า พนักงานที่ทำงานใกล้กับกระแสไฟฟ้าอาจต้องการอุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้าเพื่อความปลอดภัยในการทำงาน ซึ่งหนึ่งในอุปกรณ์สำคัญนั้นก็คือ ถุงมือกันไฟฟ้า
คุณสมบัติของถุงมือกันไฟฟ้า
คุณสมบัติของถุงมือกันไฟฟ้าคือ เป็นฉนวนที่ดี ป้องกันกระแสไฟฟ้าเข้าสู่ร่างกาย มีความแข็งแรง มีความยืดหยุ่นและความทนทาน เพื่อให้มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยและสมรรถนะในการใช้งาน และที่สำคัญก่อนการใช้งานควรมีการตรวจเช็คสภาพของอุปกรณ์ให้ดีก่อน
การตรวจเช็คสภาพการใช้งานของถุงมือกันไฟฟ้า
เราสามารถตรวจสอบได้ด้วยสายตาก่อนว่ามีรอยขาดรอยรั่วตรงจุดใดหรือไม่ หรือถ้าใช้งานมาเป็นเวลานาน ถุงมือกันไฟฟ้าก็อาจจะมีการเสื่อมสภาพหรือชำรุดได้ และถ้าตรวจทานดูด้วยตาเปล่าแล้วยังไม่มั่นใจ ให้เช็ครอยรั่วได้โดยเป่าลมเข้าถุงมือกันไฟฟ้าจนพองจากนั้นบีบดูเพื่อฟังว่ามีเสียงลมออกมาหรือไม่ ถ้ามีนั่นคือมีรอยรั่วนั่นเอง ระหว่างที่เราปฏิบัติงานโดยสวมถุงมือกันไฟฟ้าก็ควรที่จะสวมถุงมือหนังทับอีกชั้น เพื่อป้องกันอุบัติเหตุการทิ่มตำจากสายไฟที่อาจทำให้ถุงมือกันไฟฟ้าเกิดรอยรั่วได้เช่นกัน
ถุงมือกันไฟฟ้าจะมีแบ่งตามระดับการป้องกันไฟฟ้าแรงสูงของถุงมือ ซึ่งแบ่งเป็นClass ในแต่ละ Class ดังนี้
- Class 00 ระดับแรงดันไฟฟ้าสูงสุด = 500 โวลต์
- Class 0 ระดับแรงดันไฟฟ้าสูงสุด = 1,000 โวลต์
- Class 1 ระดับแรงดันไฟฟ้าสูงสุด = 7,500 โวลต์
- Class 2 ระดับแรงดันไฟฟ้าสูงสุด = 17,000 โวลต์
- Class 3 ระดับแรงดันไฟฟ้าสูงสุด = 23,500 โวลต์
- Class 4 ระดับแรงดันไฟฟ้าสูงสุด = 36,000 โวลต์